วันพฤหัสบดีที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

การใช้ VERB TO BE


การใช้ VERB TO BE
Verb to be สามารถทำหน้าที่ทั้งเป็นกริยาแท้ (Link Verb) และเป็นกริยาช่วย (Auxiliary) ดังนั้นเพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจง่ายจึงขออธิบายโดยการแยกตามหน้าที่ที่ทำในประโยค ดังนี้
Be :
ในรูป present tense (ปัจจุบัน) คือ is, am, are
Be : ในรูป past tense (อดีตกาล) คือ was, were
is : ใช้กับประธานเอกพจน์ เช่น he, she, it, Dang, Ladda
am :
ใช้กับประธานได้ตัวเดียว คือ I
are :
ใช้กับประธานพหูพจน์ เช่น we, they, you, Tom and Dang
was :
ใช้กับประธานเอกพจน์รวม I เช่น he, she, it, Dang, Ladda
were :
ใช้กับประธานพหูพจน์ เช่น we, they, you, Tom and Dang
VERB TO BE ใช้เป็นกริยาแท้
Verb to be ที่เป็นกริยามาตามลำพังในประโยคก็ดี หรือเป็นกริยาที่วางอยู่หลังกริยาช่วยตัวอื่นก็ดี ถือว่าเป็นกริยาแท้ เพราะอยู่ในตำแหน่งที่ทำหน้าที่เป็นกริยาหลักของประโยค ไม่ว่าจะแปลออกสำเนียงว่า เป็น อยู่ คือ หรือไม่ก็ตาม และโดยมากกริยา Verb to be ที่ทำหน้าที่เป็นกริยาแท้ในประโยค มักจะเป็นกริยา Linking Verb ซึ่งกริยาชนิดนี้จะทำหน้าที่เชื่อมคำหรือกลุ่มคำที่เป็นประธานข้างหน้าตัวเองให้เข้ากับคำหรือกลุ่มคำด้านหลังตัวเอง และจะให้ความหมายว่า exist (เป็นอยู่ คงอยู่) ที่สำคัญคือเมื่อใช้กริยา Verb to be เป็นกริยาแท้ในประโยคแล้ว Be จะทำหน้าที่เหมือนกริยาแท้ที่ผันไ 3 ช่องตัวอื่นๆ โดยมีวิธีใช้ ดังนี้
1. Verb to be
ใช้เป็นกริยา Linking Verb ในประโยค โดยใช้เชื่อมประธานของประโยคเข้ากับส่วนที่เหลือ ที่ตามมาด้านหลังกริยา เช่น
Somsri is very beautiful.
สมศรีสวยมาก
(is
เชื่อมประธานเข้ากับคำคุณศัพท์ที่อยู่ด้านหลังของตัวเอง คือ beautiful)
Zico is a good footballer.
ซิโก้เป็นนักฟุตบอลที่เก่งคนหนึ่ง
(is
เชื่อมประธานเข้ากับคำนามด้านหลัง คือ footballer)
Mr. Tom’s house is there.
บ้านของทอมอยู่ที่นั่น (is เชื่อมประธานเข้ากับคำกริยาวิเศษณ์ คือ there)
My car is in the garage.
รถยนต์ของฉันจอดอยู่ในโรงรถ (is เชื่อมประธานเข้ากับ Adverbial Phrase คือ in the garage)
Mr. Dale is to retire next year.
คุณเดลจะเกษียณอายุในปีหน้า
You are to write your name at the top of each sheet of paper.
คุณต้องเขียนชื่อของคุณ ที่หัวกระดาษแต่ละแผ่น
(is
และ are เชื่อมประธานเข้ากับ infinitive คือ to retire และ to write)
2. Verb to be ใช้เป็นกริยาแท้ในความหมายว่า มีอยู่ คงอยู่เช่น
God is. (exists)
พระเจ้ามีอยู่จริง
I think, therefore I am.
ผมคิดอย่างที่ผมเป็น
3. Verb to be ใช้เป็นกริยาแท้เพื่อแสดงคำสั่ง (Command) หรือ คำขอร้อง (Request) เช่น
Be quiet.
เงียบๆ ด้วยครับ
Be a good student.
ขอให้เป็นนักเรียนที่ดีนะ
VERB TO BE ใช้เป็นกริยาช่วย
Verb to be ใช้เป็นกริยาช่วย โดยการช่วยกริยาแท้ของประโยคสร้าง Tenses ต่างๆ นั่นหมายความว่าเมื่อ Verb to be ถูกนำมาใช้เป็นกริยาช่วย มักจะวางอยู่หน้ากริยาแท้ของประโยคเสมอ และมีอำนาจทำให้กริยาแท้ของประโยคเปลี่ยนรูปร่างไปตาม Voices (วาจก) ซึ่งมีอยู่ 2 Voices คือ Active Voice และ Passive Voice โดยมีรูปร่างและวิธีใช้ ดังนี้
1.
ใช้ Verb to be (is, am, are, was, were) เป็นกริยาช่วยในประโยค Active Voice (ประโยคที่มีประธานเป็นผู้กระทำต่อกริยาโดยตรง) กริยาแท้ (Principal Verbs) ที่อยู่ด้านหลัง Verb to be จะอยู่ในรูป ช่องที่ 1 เติม –ing (Verbing) เสมอ ซึ่งก็คือ Present Continuous และ Past Continuous นั่นเอง เช่น
• Present Continuous Tense
S + is, am, are + Ving + Object
I am teaching English.
ผมกำลังสอนภาษาอังกฤษอยู่
(am
เป็นกริยาช่วยของกริยาแท้คือ teach ดังนั้นจึงต้องเติม ing ที่ teach
เป็น teaching
Some of my students are playing football.
นักเรียนของผมบางคน กำลังเล่นฟุตบอล
Miss Sona is writing an English letter to Mr.Robert.
คุณโซน่ากำลังเขียนจดหมายภาษาอังกฤษฉบับหนึ่งถึงคุณโรเบิร์ต
Jim and Joe are coming to my house.
จิมและโจกำลังเดินทางมาที่บ้านของผม
My teacher is reading a novel.
คุณครูของผม กำลังอ่านหนังสือนวนิยายอยู่
• Past Continuous
Subject + was, were + Ving + Object
I was watching T.V. in the afternoon.
ผมกำลังดูรายการทีวีอยู่ในช่วงบ่าย
She was standing at the gate at this time yesterday.
หล่อนกำลังยืนอยู่ที่รั้วประตู ในช่วงเวลานี้ของเมื่อวาน
We were sitting in the classroom at 7 o’ clock.
พวกเรากำลังนั่งอยู่ในห้องเรียนช่วงเวลา 7 นาฬิกา
2. ใช้ Verb to be เป็นกริยาช่วย ในประโยค Passive Voice (ประโยคที่มีประธานถูกกระทำ) กริยาแท้ (Principal Verbs) ที่อยู่ด้านหลัง Verb to be จะอยู่ในรูป ช่องที่ 3 (Verb3) เสมอ เช่น
is, am, are
was, were
The letter was written by my friend.
จดหมายฉบับนี้ถูกเขียนโดยเพื่อนของผม
She was asked to submit the application.
หล่อนถูกขอให้ส่งใบสมัคร
My wife was requested to invite the guests.
ภรรยาของผม ถูกขอร้องให้เป็นผู้เชิญแขก
I was blamed for the delay.
ผมถูกต่อว่าเพราะความล่าช้า
The windows were opened by my students.
หน้าต่างถูกนักเรียนของผมเปิดออก
The tiger was killed by a snake.
เสือถูกงูกัดตาย
You are being considered for the job.
คุณกำลังถูกพิจารณาตำแหน่งงานให้ทำอยู่
The dinner is being cooked.
อาหารเย็นกำลังถูกจัดทำอยู่
3. ใช้ Verb to be เป็นกริยาช่วยในการสร้างประโยคคำถาม (Questions) ประโยคปฏิเสธ (Negative) และประโยคคำถามปฏิเสธ (Negative Questions) ซึ่ง Verb to be ที่ใช้สร้างประโยคเหล่านี้จะทำหน้าที่เป็นได้ทั้งกริยาช่วยและกริยาแท้ เช่น
I am a teacher. = Am I a teacher?
You are my friend. = Are you my friend?
You are writing a letter. = Are you writing a letter?
I am not a journalist. = Am I not a journalist?
You are not my wife. = Are you not my wife?
I am a teacher. = I am not a teacher.
You are a singer. = You are not a singer.

5 ความคิดเห็น:

  1. จ๊ะเอ๋ คนทำก็ต้องอ่านด้วยนะ

    สีสันดูดีมากเลย

    ตอบลบ
  2. จ๊ะเอ๋ คนทำก็ต้องอ่านด้วยนะจ๊า
    สีสันสวยดูดีมากเลย

    ตอบลบ
  3. เนื้อหาดี อ่านแล้วเข้าใจง่าย blog น่ารักดีน่ะ

    ตอบลบ
  4. น่ารักดีจ๊ะ อ่านง่าย

    ตอบลบ
  5. ยังมีคลาดเคลื่อนบางแห่งครับ
    I think, therefore I am ผมคิดอย่างที่ผมเป็น
    ยังแปลไม่ถูก
    ผมคิด ดังนั้นฉันจึงมีอยู่
    อธิบาย หมายความว่าฉันคิด (สามารถคิดอะไรต่ออะไรได้ ดังนั้น "ตัวตน" ของฉันจึงมีอยู่)
    เป็นคำพูดของนักปราชญ์ชาวฝรั่งเศษ Degas ซึ่งให้เหตุผลเรื่องตัวตน

    ตอบลบ